Last updated: 10 เม.ย 2568 | 17 จำนวนผู้เข้าชม |
5 เทรนด์กล้องสำรวจในปี 2025 ที่ช่างสำรวจควรรู้
โลกของงานสำลวจ (Surveying) กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว! เทคโนโลยีกล้องสำรวจในปี 2025 ได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ ฉลาดกว่า เร็วกว่า และแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบอัตโนมัติ วันนี้เรามาอัปเดต 5 เทรนด์ใหม่ที่ช่างสำรวจควรรู้ไว้ เพื่อไม่ให้ตกยุคและพร้อมลุยงานอย่างมืออาชีพ!
1. กล้องสำรวจแบบ Robotic กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่
กล้อง Robotic Total Station สามารถทำงานคนเดียวได้! ควบคุมผ่านรีโมตหรือแท็บเล็ตจากระยะไกล เล็งเป้าอัตโนมัติ, วัดพิกัด, บันทึกข้อมูลแบบ Real-time
✅ เหมาะกับงานที่พื้นที่จำกัด หรือโครงการที่ต้องการความเร็วและลดแรงงาน
2. การเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์และแอปมือถือ
กล้องสำรวจรุ่นใหม่สามารถ เชื่อมกับ Cloud ได้โดยตรง ซิงก์ข้อมูลอัตโนมัติเข้าระบบ BIM / AutoCAD / Civil 3D ใช้แอปมือถือในการดูพิกัด, ตรวจสอบ, หรือควบคุมกล้องได้
✅ ลดขั้นตอนถ่ายโอนข้อมูล, ลดข้อผิดพลาด, ทำงานภาคสนาม + สำนักงานได้แบบต่อเนื่อง
3. การผสานการทำงานกับโดรน และ 3D Laser Scanner
ใช้ โดรนเก็บภาพ + กล้องสำรวจตรวจสอบพิกัด แบบ Hybrid กล้องสำรวจและ 3D Scanner สร้างโมเดล 3D (Point Cloud) ได้รวดเร็ว ประยุกต์ใช้กับงานเหมือง, งานสำรวจพื้นที่ใหญ่, งานถนนและสะพาน
✅ ลดเวลาทำแผนที่จาก "หลายวัน" เหลือแค่ "ไม่กี่ชั่วโมง"
4. ระบบ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลภาคสนาม
กล้องรุ่นใหม่สามารถ วิเคราะห์ข้อมูลทันทีหลังวัด ใช้ AI ตรวจจับจุดเบี่ยงเบน, ความลาด, ความสูงผิดปกติ บางรุ่นสามารถคาดการณ์แนวโครงสร้างหรือแนวลาดได้ทันที
✅ ช่วยช่างตัดสินใจได้ไวขึ้น ไม่ต้องรอถึงสำนักงาน
5. กล้องดิจิทัลอัตโนมัติแบบ “ไม่ใช้ปริซึม” (Full Non-Prism)
ใช้เลเซอร์ยิงจากกล้องโดยตรงโดย ไม่ต้องใช้ปริซึม ทำงานได้ในพื้นที่อันตราย หรือจุดที่คนเข้าไม่ถึง ระยะวัดไกลกว่าเดิม (สูงสุด 800–1,000 เมตร ขึ้นอยู่กับรุ่น)
✅ เหมาะกับงานเหมือง งานตึกสูง งานสะพาน หรือพื้นที่เข้าถึงยาก
สรุป: เทรนด์กล้องสำรวจปี 2025 ที่ต้องจับตา
เทรนด์
กล้อง Robotic ทำงานคนเดียวได้ / อัตโนมัติสุด
เชื่อม Cloud ซิงก์ข้อมูลแบบ Real-time
ผสานกับ Drone / 3D สำรวจไว สร้างโมเดล 3D ง่าย
AI วิเคราะห์ข้อมูล ลดภาระช่างภาคสนาม
Non-Prism ขั้นสูง ยิงเลเซอร์วัดจุดได้ทุกสภาพงาน
11 เม.ย 2568