เปรียบเทียบTotal Station DADI DTM-624R กับ DADI DTM-152M

Last updated: 18 ก.พ. 2568  |  19 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปรียบเทียบTotal Station DADI DTM-624R กับ DADI DTM-152M

เปรียบเทียบTotal Station DADI DTM-624R กับ DADI DTM-152M

งานสำรวจและงานก่อสร้างจำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์ที่เรียกว่า “กล้องประมวลผลรวม” หรือ “Total Station” เพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่ง DADI DTM-624R และ DADI DTM-152M เป็นสองรุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันแต่มีจุดแตกต่างสำคัญบางประการ บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบคุณสมบัติของทั้งสองรุ่น เพื่อให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

1. ระบบวัดมุม (Angle Measuring Method)
- DTM-152M: ใช้ Absolute Encoder (ระบบเข้ารหัสมุมแบบสัมบูรณ์) มีความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน
- DTM-624R: ใช้ Incremental Encoder ซึ่งจำเป็นต้องตั้งศูนย์ใหม่ทุกครั้ง แต่ยังคงมีความเที่ยงตรงสูง

สรุป: หากต้องการความสะดวกและประหยัดเวลา DTM-152M ตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าคุณเน้นความคงทนและไม่กังวลเรื่องตั้งศูนย์ใหม่ DTM-624R ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

2. ชนิดแบตเตอรี่ (Battery Type)
- DTM-152M: ใช้ แบตเตอรี่ลิเทียม (Lithium) 7.2V 3000mAh น้ำหนักเบาและอายุการใช้งานยาวนาน
- DTM-624R: ใช้ แบตเตอรี่ Ni-H (Nickel Hydride) 7.2V ซึ่งอาจมีความทนทานต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ดีกว่า

สรุป: ถ้าคุณต้องการความเบาและใช้งานได้ยาวนานกว่าในแต่ละรอบชาร์จ DTM-152M เหมาะสมกว่า แต่ถ้ามีงานในสภาพอากาศที่หลากหลาย DTM-624R จะยืดหยุ่นได้ดีกว่า

3. ขนาดและน้ำหนัก (Dimension & Weight)
- DTM-152M: ขนาด190×175×355 มม.น้ำหนัก 5.5 กก.
- DTM-624R: ขนาด 180×175×355 มม. น้ำหนัก 6.5 กก.

แม้ว่าขนาดของ DTM-624R จะเล็กกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีน้ำหนักมากกว่าประมาณ 1 กก. ซึ่งอาจส่งผลต่อการพกพา

4. ระยะโฟกัสของกล้องเล็ง (Telescope Tube Length)
- DTM-152M: ระยะโฟกัส 160 มม.
- DTM-624R: ระยะโฟกัส 165 มม. อาจช่วยให้มุมมองคมชัดขึ้นในบางสถานการณ์

5. เวลาวัดระยะ (Measuring Time)
- DTM-152M:
- โหมดFine 1 ใช้เวลา 1 วินาที
- โหมด Trackingใช้เวลา 0.8 วินาที

- DTM-624R:
- โหมด Fine Single Shot ใช้เวลา 3 วินาที
- โหมด Tracking ใช้เวลา 0.8 วินาที

สรุป: ในโหมดที่ต้องการความละเอียด DTM-152M ใช้เวลาวัดระยะเร็วกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่โหมด Tracking นั้นทั้งสองรุ่นมีระยะเวลาเท่ากัน

6. ความทนทานและระยะเวลาการใช้งาน
ทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานได้นานใกล้เคียงกัน คือ
- วัดมุม (Angle Measurement)ได้ประมาณ 20 ชั่วโมง
- วัดระยะ (Distance Measurement) ได้ประมาณ 8 ชั่วโมง

7. รายละเอียดเพิ่มเติม
- ระยะวัดสูงสุด: Single Prism 3 กม., Three Prism 5 กม., Non-Prism 400 ม.
- ความละเอียดมุม (Accuracy): 2
- พอร์ตเชื่อมต่อ: RS-232C และ USB
- กล้องเล็ง: กำลังขยาย 30×, รูรับแสง 48 มม. ระยะโฟกัสใกล้สุด 1 ม.

สรุป: รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?

DTM-152M
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและความคล่องตัวในการทำงานสูง
- ใช้ Absolute Encoder ไม่ต้องตั้งศูนย์ใหม่ทุกครั้ง
- น้ำหนักเบา (5.5 กก.)
- ใช้งานโหมดวัดระยะ Fine ได้เร็ว (1 วินาที)
- แบตเตอรี่ลิเทียม อายุใช้งานต่อรอบชาร์จยาวนาน

DTM-624R
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องที่มีความทนทาน และไม่กังวลที่จะต้องตั้งศูนย์ใหม่
- ใช้ Incremental Encoderให้ความแม่นยำสูง
- แบตเตอรี่ Ni-H ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
- กล้องเล็งมีระยะโฟกัสยาวกว่าเล็กน้อย (165 มม.)

ข้อสรุปสุดท้าย
หากคุณต้องการเครื่องที่ใช้งานง่ายและวัดระยะได้เร็วในโหมดละเอียด DTM-152M คือทางเลือกที่น่าสนใจ
แต่ถ้าคุณต้องการความทนทานในทุกสภาพแวดล้อม และยอมรับการตั้งศูนย์ใหม่ทุกครั้งเพื่อได้ความแม่นยำสูง DTM-624Rคืออีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า

 

 


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้